ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

My Favorite Video

X Japan- Silent Jealousy PV



X (Japan) - X live



X Japan SADISTIC DESIRE 93'12.30



X Japan - Week End



X - Kurenai [PV]



apan - Say Anything - Live 1991 (With Orchestra)



X Japan - Rusty Nail (Live 2009 Hong Kong)

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ข่าวดีสำหรับชาว j rock

Asian Paradise ประกาศถึงชาว J-Rock เรียกรวมตัว...ด่วน!!!

ทีม Asian Paradise ประกอบไปด้วย อากิ นิว และเรียล ส่งสานส์ถึงชาว J-Rock ทั่วราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกเก่าหรือใหม่ เรียกรวมตัว ด่วน!!! เตรียมพร้อมตั้งรับให้ดีกับการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของกระแส J-Rock (Visual Rock) และการมาเยือนของศิลปิน J-Rock ตัวจริงเสียงจริง ที่จะเกิดขึ้นในบ้านเรา ปีนี้ แน่นอน!!! หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Asian Paradise ได้การันตีความมันส์มาแล้ว ด้วยการจัดกิจกรรม J-Rock อย่างต่อเนื่องในปี 2009 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น งาน -Moon-KANA Princess of Lolita, Makoto Fan Meeting, SuG the 1st Attack in BKK และ MIYAVI 382 BKK Fan Meeting ด้วยการปลุกกระแสอย่างต่อเนื่องนี้เอง ทำให้ศิลปินญี่ปุ่นหลายๆวง เริ่มสนใจการมาทำกิจกรรมในไทยมากขึ้น ปี 2010 จึงถือเป็นปีแห่งการกลับมาของกระแส J-Rock ในบ้านเรา อีก ทั้ง ศิลปินวงดังๆของญี่ปุ่นเอง ที่เคยประกาศพักงาน เช่น Luna Sea และ Lucifer ก็กลับมารวมตัว เพื่อเริ่มทำกิจกรรมกันอีกครั้งด้วย ปีนี้จึงถือเป็นปีที่ชาวเจร็อค และชาวเอเชี่ยนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!! Asian Paradise ขอรับประกันว่ากิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในบ้านเราต่อจากนี้ไป จะมีแต่ความตื่นเต้นและอลังการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ห้ามพลาดกับการติดตามข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ เร็วๆนี้ http://www.pingbook.com หรือจะเข้ามาเม้าท์กันได้ทhttp://asianparadise.hi5.comที่มา : PINGBOOK ENTERTAINMENT - http://www.pingbook.com - หากนำข่าวไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วย

X JAPAN Album

Vanishing Vision (1988-04-14)
Tracklist:
1 - Dear Loser
2 - Vanishing Love
3 - Phantom Of Guilt
4 - Sadistic Desire
5 - Give Me The Pleasure
6 - I'll Kill You
7 - Alive
8 - Kurenai
9 - Un-Finished...

BLUE BLOOD (1989-04-21)

Tracklist:
01-Prologue (World Anthem)
02-Blue Blood
03-Weekend0
4-Easy Fight Rambling
05-X
06-Endless Rain0
7-Kurenai0
08-Exclamation
09-Orgasm
10-Celebration
11-Rose Of Pain
12-Unfinished

Jealousy (1991-07-01)

Tracklist:
01- Es Dur No Piano Sen
02- Silent Jealousy
03- Miscast
04- Desperate Angel
05- White Wind From Mr. Martin0
6- Voiceless Screaming
07- Stab Me In The Back
08- Love replica
09- Joker
10- Say Anything

download part 1
download part
2

Art of Life (1993-08-25)

Tracklist:
01 - Art of life

download part 1
download part 2


DAHLIA (1996-11-04)

Tracklist:
01- Dahlia
02- Scars
03- Longing ~ Togireta MERODY
04- Rusty Nail
05- White Poem I
06- Crucify My Love
07- Tears
08- Wriggle
09- Drain
10- Forever Love (Accoustic)

download part 1
download part 2

ประวัติ Pata

NAME : TOMOAKI ISHISUKA
BIRTHDAY : NOVEMBER 4, 1965
BIRTHPLACE : CHIBA
BLOODTYPE : B
STAR : SCORPIO

PATA เป็นชื่อเล่นที่ได้มาจากการ์ตูนเรื่อง PATARIO เจ้าชายเมือง BANCORAN ชื่อนี้เป็นชื่อที่เรียกกันมาถึงทุกวันนี้ บางทีเขาก็ถูก HIDE เรียกว่า เจ้าชายผมแดง PATA เป็นคนเงียบๆ ง่ายๆ สบายๆ ทำอะไรใน STYLE ของตัวเอง ในตอนเด็ก เขาก็เป็นเด็กเรียนหนังสือเก่ง คะแนนจะอยู่ 1 ใน 10 ตลอด โดยเฉพาะคณิตศาสตร์จะถนัดมาก เจ้าตัวบอกว่าไม่ได้เก่งอะไรแค่ไป ร.ร.ทุกวัน ตอนอนุบาลเรียนออร์แกน แต่เกลียดการซ้อมโน๊ตด้วยแม็กเน็ตลงบน 5 เส้น เลยเลิกเรียนภายใน 4-5 ครั้ง ชั้นประถมก็เรียนวาดภาพ ป.4 ได้รางวัลประเภทภาพสีน้ำของเมืองชิบะ ขึ้นม.ต้นก็เรียนวาดภาพสีน้ำมัน แต่พอโตขึ้นเขากลับบอกว่าไม่ถนัดวาดรูปเลย เขาไม่ค่อยชอบกีฬาแต่เพื่อนรอบข้างจะเล่นกัน เขาเลยเล่นฟุตบอลนิดหน่อย เข้าสังกัดชมรมเทนนิสตอนม.ต้น พอ ม.2 ก็ได้เป็นนักกีฬาตัวจริง สาเหตุที่เริ่มเล่นเทนนิสก็เพราะเขาติดการ์ตูน (ผู้หญิง) เรื่อง ACE O NERAEI เขาชอบอ่านการ์ตูน ของสะสมของเขาก็คือหนังสือการ์ตูน เขาไป ร.ร.จริงจังจนถึง ม.1 เท่านั้น หลังจากนั้นก็เริ่มขาดเรียนบ่อยๆ และพอ ม.3 ก็ไม่ได้ไป ร.ร.เลย เขายอมรับว่าเขาเป็นเด็กที่เกลียด ร.ร.มาก ไม่ใช่เพราะถูกรังแกหรือเกลียดการเรียน แต่เขารำคาญการที่ต้องไป ร.ร. เพราะร.ร.เดิมของเขานั้นเดินจากบ้านแค่ 10 นาทีเท่านั้น แต่ ร.ร. ม.ปลายต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 1.30 ชม. ทำให้เขาเริ่มที่จะไม่ไป เขาหมกตัวอยู่ในบ้านเพื่อดีดกีตาร์ทั้งวัน ตอนกลางคืนก็จะฟังรายการเพลงต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลทางด้านดนตรีทั้งหมด เขาเริ่มฟังดนตรีมาตั้งแต่ ป.4 ดนตรีแรกที่สัมผัสคือ เพลงของ THE BEATLES ที่พี่ชายของเพื่อนเอามาให้ฟัง จากนั้นก็ชอบ KISS, AERO SMITH และวง ROCK ต่างๆ เช่น CHEAP TRICK เป็นต้น แต่ที่สร้างความประทับใจให้เขามาที่สุดในตอนนั้นคือ ริค นิลเซน มือกีตาร์วง CHEAP TRICK เขาชอบความเท่ห์ของริคทำให้เขาเริ่มซ้อมกีตาร์โฟลกของน้องสาว จากนั้นก็ชอบ ริช แบล็คมอร์ (DEEP PURPLE-RAIN BOW) ทำให้เขากลายเป็นหนุ่ม HARD ROCK เขาไม่มีโอกาสโชว์ฝีมือทางกีตาร์ เพราะเขาไม่มีเพื่อนที่ตีกลองได้เลยทำให้ตั้งวงไม่ได้ เขาจึงได้แต่ซ้อมกีตาร์กับเพื่อนนิดหน่อยเท่านั้น หลังเข้าเรียนชั้น ม.ปลาย ก็เริ่มตั้งวงกับเพื่อนที่รู้จักที่ร้านขายเครื่องดนตรี และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาได้ค่อยได้ไป ร.ร. ในงาน ร.ร.ฤดูใบไม้ร่วง เขาพาวงดนตรีของเขามาร่วมงาน ชายคนที่ไม่ค่อยมา ร.ร.แต่มาปรากฏตัวบนเวที มีเทคนิคกีตาร์เกินกว่าเด็กชั้น ม.ปลาย ทำให้เพื่อนๆ สนใจ เขาจึงกลายเป็นฮีโร่ภายใน 1 วัน หลังจากนั้นเขาก็ไม่ไป ร.ร.อีกเลย วงที่เข้าร่วมชื่อ BLACK ROSE เขาได้ดูการแสดงบนเวทีของ X ในการแข่งขันของชิบะ ในตอนนั้น TOSHI ยังผมสั้นอยู่ YOSHIKI ก็หน้าแก่จนคิดไม่ถึงว่าเป็นเด็ก ม.ปลาย หลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาอยู่วง JUDY แสดงที่ LIVE HOUSE ในโตเกียว จึงทำให้เริ่มสนิทกับ TOSHI และ YOSHIKI ในที่สุดวง JUDY ก็แยกตัวกันไป PATA ก็ไปทำงานพิเศษ ในเวลานั้น YOSHIKI โทรมาหาและบอกว่า “คนเล่นกีตาร์ลาออกไปแล้ว ช่วยมาเล่นให้หน่อยได้มั้ย” เขาอยากเล่นกีตาร์มากจึง ตอบตกลงไปด้วยความดีใจ และนี่ก็เป็นเหตุให้เข้าร่วมวง X ได้ในที่สุด ทรงผมของ PATA ในตอนแรกๆ จะเป็นทรง MOHICAN (ไถ่ผมทั้ง 2 ข้างออกหมดยกเว้นตรงกลางแล้วตั้งขึ้นเหมือนนกหัวขวาน) ผู้ออกแบบทรงผมและสีผม (สีแดง) ก็คือ HIDE นั้นเอง PATA ยอมตัดผมทรงนี้เพราะไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร แต่ปัจจุบันก็ไว้ผมยาวหยิกเป็นลอนๆ ดูเท่ห์มากเวลาเล่นกีตาร์

http://www.pata-official.com/

ประวัติ Heath

NAME : HIROSHI MORIE
BIRTHDAY : JANUARY 22, 1968
BIRTHPLACE : HYOGO
BLOODTYPE : B
STAR : AQUARIUS

HEATH เป็นคนเรียบร้อย ทำงานมีระเบียบแบบแผน รักความสะอาด เขาจะทำความสะอาดห้องและจัดโต๊ะของเขาให้สะอาดและเป็นระเบียบอยู่เสมอ ใจดี ชอบ take care คนอื่น แต่ 2 อันหลังเขาบอกว่าไม่ค่อยแสดงออกbสิงหาคม 1992 X-Japan ประกาศตัวมือเบสคนใหม่ นั่นคือ HEATH ชายที่อายุน้อยที่สุดในวง ในตอนแรกเขาได้รับแรงกดดันมากทีเดียวเพราะความที่เป็นคนใหม่ อีกทั้งยังต้องเล่นในตำแหน่งของ TAIJI ที่มีเทคนิคและฝีมือดีมาก เขาต้องซ้อมหนักกับเพลงต่างๆ ของ X แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก TAIJI เป็นอย่างดี หลังจาก ART OF LIFE แล้ว เขาก็เป็นที่ยอมรับของแฟนๆ HEATH เป็นมือเบสของ X ตั้งแต่ปี 1992-1997 ประวัติในวงการ 1985 เข้าวง PARANOIA เป็นวงใต้ดินที่โอซาก้า1986 เข้าวง MEDIA YOUTH เป็นวงใต้ดินที่โตเกียว 1991 ร่วมงาน EXTACY SUMMIT 1991 1992 เข้าวง X หลังจาก TAIJI ออกได้ 10 เดือน เพราะ HIDE โทรไปชวนให้มาช่วยเล่นให้ X ทำงานชิ้นแรกร่วมกับ X ; MINI ALBUM ART OF LIVE 22.2.1995 ออก MINI ALBUM & VDO. PACKAGE LIMITED SALES ( TOP 1 VDO. ) 7.10.1996 ออก SINGLE แรก เมเคียวโนะ เลิฟเวอร์ เป็นเพลง ENDING ของการ์ตูนเรื่อง โคนันยอดนักสืบ 19.2.1997 ออก SINGLE ที่สองชื่อ TRAITOR ปัจจุบัน HEATH เปิดบริษัทชื่อ M 'S COMPANY ร่วมกับ TATSUYA พี่ชาย ตั้งอยู่ที่ตึก LEMONed ที่เดียวกับบริษัทของ HIDE

ประวัติ Hide

NAME : HIDETO MUTSUMOTO
BIRTHDAY : 13 DECEMBER 1964 - 2 MAY 1998 (33)
BIRTHPLACE : YOKOSUKA, KANAGAWA
BLOODTYPE : AB
STAR : SAGITTARIUS

ที่เป็นเด็กประถม เจ้าตัวบอกว่าเขาอ้วนมาก เหมือนลูกโป่งเลย (คงประมาณ 80 กก.) แต่ตอนอนุบาลไม่อ้วน มาเริ่มอ้วนสมัยประถม มันเป็นเหมือนปมด้อยในชีวิตเขาเลย แต่ความอ้วนก็มีข้อดีเหมือนกัน HIDE บอกว่าทุกคนจะจำเขาได้อย่างรวดเร็ว ตอนที่ย้ายห้องใหม่ๆ ที่ครูจำได้เพราะอ้วนที่สุด หรือไม่ก็ที่ 2 ของห้อง ตอนพักกลางวันที่สนามของรร.มีแต่คนอ้วนทั้งนั้นเลย แล้วครูก็บอกว่าความอ้วนจะเกิดปัญหากับหัวใจ แล้วครูก็บังคับให้เขาออกกำลังกาย ทุกคนในรร.ก็มองลงมาที่สนามที่มีคนอ้วนที่ถูกบังคับให้วิ่ง มันเจ็บปวดมากเลยสำหรับเขา แต่ครูที่เป็น TRAINER บอกว่า "จะทำให้พวกเธอผอมให้ภายในไม่กี่เดือน" ครูของเขาก็เป็นคนอ้วนเหมือนกันเลยไม่ยอมวิ่งกันและมันก็ไม่ได้ผลด้วย ตอนม.3 เขาสูง 150 ซม. แต่หนัก 70 กก. นับว่าอ้วนที่สุดแล้ว แต่พอขึ้นม.ปลาย การกินของเขาก็เปลี่ยนไป เวลาขอเงินแม่บอกว่าจะไปซื้อขนมปังกิน แต่จริงๆ เอาเงินเก็บไว้ซื้อของอื่นๆ เช่น พวกเสื้อผ้า SATIN เลยไม่กินข้าวกลางวัน กลับถึงบ้านก็ไม่กินแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปเที่ยวต่อทันที พอทำอย่างนี้ก็ผอมลงเรื่อยๆ เลยคิดว่า "ทำแบบนี้ดีนี่" เลยไม่กินซะเลย วันนึงกินแค่มื้อเดียวหรือไม่กินเลย ผอมลงมาก 2 เดือน นน.ลดตั้ง 20 กก.อย่างสบายๆ ผอมลงจนเหมือนคนละคน ทางบ้านจะสนับสนุนให้ HIDE เรียนพิเศษมากมายเยอะไปหมด ไม่ว่าจะภาษาอังกฤษ ลูกคิด เคนโด คาราเต้ คัดอักษร เปียโน อันนี้เป็นสิ่งเดียวที่ไม่อยากเรียน พูดไปก็ร้องไห้ไป แม้ว่าเขาจะได้รับความสนับสนุนทางด้านการเรียนเป็นอย่างดี แต่เขาก็ไม่ค่อยใส่ใจกับการเรียนเท่าไหร่นัก แม้จะไปรร.ทุกวันเหมือนเด็กขยัน เขาชอบขี่จักรยานมากกว่าที่จะไปนั่งสนใจเกี่ยวกับการเรียน เขาเรียนตั้งแต่ประถมจนถึงม.ต้น คำพูดที่แม่จะพูดเวลาที่เขากลับบ้านคือ "วันนี้ไปเรียนนู่น วันนี้ไปเรียนนี่" ตารางเวลาถูกจัดไว้อย่างดีโดยพอแม่ของเขา แต่เมื่อเขามาคิดๆ ดูแล้ว สิ่งที่เขาเรียนมาทั้งหมดในตอนนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยในปัจจุบัน ถ้าเรียนเปียโนยังจะมีประโยชน์เสียกว่า แต่เขาเกลียดสิ่งนั้นจริงๆ สมัยป.4 พ่อแม่ส่งให้เขาไปเข้าร่วมทัวร์สำหรับเด็กที่พาไป CANNADA และ LA. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง เขาถูกส่งไป SHIKOKU เพียงลำพัง พ่อแม่ของเขาคิดว่าอนาคตอยากให้เขาเป็นคนที่มีความเป็น INTER แต่พอถามถึงความทรงจำในสมัยนั้น สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือการได้ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะไม่มีเรื่องน่าอายเกิดขึ้นนั่นเอง ตอนแรกเขาไม่มีความสนใจในดนตรี ROCK เท่าไหร่นัก เหตุผลหนึ่งก็คือ เด็กคนที่เขาไม่ชอบหน้าเอามากๆ คนนั้นคลั่งไคล้ในการฟัง AERO SMITH มาก เวลาที่ HIDE ไม่ชอบใคร เมื่อคนๆ นั้นทำอะไรก็พลอยทำให้ไม่ชอบไปหมด ดังนั้น ดนตรี ROCK ในช่วงนั้นก็ขวางหูขวางตาไปด้วย แต่เหตุผลที่เขาเริ่มมาสนใจไม่ใช่เพราะเขาเลิกเกียดเด็กคนนั้น แต่เป็นเพราะช่วงม.2 เขาได้ฟังเพลงของ KISS ALBUM : ALIVE เขาชอบมากและเริ่มสนใจดนตรี ROCK อย่างจริงจังและขยายไปจนถึง PUNK เขาหานิตยสารเกี่ยวกับ KISS มาอ่าน อีกทั้งยังสมัครเข้าเป็น FANCLUB อีกด้วย เขาจะยืนคอยจม.ตอบรับทุกวันที่ตู้จม.หน้าบ้าน นอกจาก KISS แล้วเขาก็ชอบ LED ZEPPLINE, QUEEN โดยเฉพาะวง JAPAN ที่ปลื้มเป็นพิเศษ เพราะวงนี้จะแต่งหน้าเหมือนผู้หญิงและมีทรงผมแปลกๆ ทำให้วงนี้น่าสนใจสำหรับ HIDE มาก อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะสมัยก่อนไม่มีวงแบบนี้ให้เห็นบ่อยนักเมื่อได้เห้นต่างก็แปลกใจ รวมทั้ง HIDE ด้วย เขาเริ่มสนใจเล่นกีตาร์ ตอนแรกจะเล่นไม้เทนนิสแทนกีตาร์ โพสท่าหน้ากระจก แถมยังบอกว่า "มันใช้ได้เหมือนกัน" เขาดีดไม้ เทนนิสมาเกือบปี พอขึ้นม.3 ยายก็ซื้อกีตาร์จริงๆ ให้สมใจอยาก เป็นของ GIBSON รุ่น LESPAULเป็นรุ่นที่ดีมากสำหรับนักเล่นกีตาร์มือใหม่ สำหรับเด็กม.3 กีตาร์รุ่นนั้นนับว่าหรูอย่าบอกใครเชียว เพื่อนๆ ในห้องพากันอิจฉาและจะเรียกเขาว่า "นาย GIBSON" เขาภูมิใจกับชื่อนี้มาก สมัยม.ปลาย ครั้งหนึ่ง ตอนสอบสัมภาษณ์เพื่อขอโควต้าเข้าเรียนต่อ คนสัมภาษณ์ถามว่า ทำไมถึงเลือกมาสอบที่นี่ เขาก็ตอบว่า "ไม่มีที่ไปนอกจากที่นี่เพราะเป็นที่เดียวที่สอบได้" จึงทำให้เขาไม่ได้รับคัดเลือก เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องเรียนเท่าไหร่นัก ขนาดไม่รู่ว่า รร.ที่ไปสอบเข้าเป็น รร.ชายล้วน เขาเบื่อ รร.มาก เขาไปเรียนเพื่อให้ครบตามที่รร.กำหมดไว้เท่านั้นเพื่อจะได้เลื่อนชั้น HIDE เกลียดวิชาพละเลยโดดวิชานี้เป็นประจำ ที่รร.เคร่งครัดเรื่องผมมาก ห้ามทัดหู ห้ามย้อมผม ดัดผมก็ไม่ได้ HIDE ไว้ยาวแค่ 3 ส่วนแล้วใช้กิ๊บติดด้านหลัง เขาบอกว่ามันลำบากมากเลย ตอนย้อมผมก็ใช้สเปรย์ฉีดทับ ตอนปิดเทอมหน้าร้อน เขาก็ให้ยายย้อมผมให้เพราะยายเป็นช่างเสริมสวย แต่พอบอกพ่อแม่ว่าอยากย้อมผมก็ถูกพ่อแม่ดุเอา แต่ยายจะพูดว่า "ก็ลองทำดูสิ" เพราะตัวยายเองก็ย้อมสีม่วงบ้าง เขียวบ้าง ยายเป็นคนเปรี้ยวมาก (ใน ALBUM: BLUE BLOOD ชุดส่าหรี่สีน้ำตาลของอินเดียที่ HIDE ใส่ตอนถ่ายรูป ก็เป็นชุดที่ยายใส่เดินไปเดินมา HIDE บอกว่ายายของเขาเท่ห์มากเลย) นอกจากเรื่องผมแล้วที่ รร.ยังห้ามเล่นดนตรี ROCK อย่างเด็ดขาด ในหนังสือคู่มือนักเรียนก็เขียนไว้ว่า กีตาร์ไฟฟ้าเป็นสิ่งต้องห้าม เขาผิดหวังมาก เพราะเขาตั้งใจว่าเมื่อเข้าม.ปลายจะตั้งวง แม้ว่ารร.จะห้ามเล่นดนตรี แต่เขาก็ตั้งวงของตัวเองได้ เพราะที่ YOKOSUGA มี PUB และ LIVE HOUSE สำหรับทหารอเมริกันมากมาย เพราะฉะนั้นการตั้งวงดนตรีก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขณะนั้นเขาก็ตั้งวงชื่อSABER TIGER นโยบายของวงคือ ทำอะไรก็ได้ให้เลิศหรูและเวอร์ที่สุด HIDE กับเพื่อนๆ ก็ทำผมเหมือนวง JAPAN HIDE เองก็ใส่โซ่อันที่ไปขโมยมาจากมอเตอร์ไซด์ที่ลาดจอดรถอีกด้วย แรกๆ SABER TIGER จะเล่นเพลงของวงที่ดังๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฝีมือของทุกคนก็เริ่มดีขึ้นจึงเริ่มที่อยากจะเล่นเพลงของตัวเองบ้าง HIDE เองก็คิดว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้คุณภาพของวงดีขึ้น เขาจึงเริ่มเข้มงวดกับสมาชิก เขาเปลี่ยนสมาชิกหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้ได้เสียงดนตรีตามที่เขาต้องการ เขาเรียกการเปลี่ยนสมาชิกของวงว่า "แผนการตัดหัวที่น่าสะพรึงกลัว" เขาใช้สิทธิ์หัวหน้าวงอย่างเต็มที่ ด้วยชุดที่หรูหราในระยะหลัง SABER TIGER ได้รับความนิยมเรื่อยๆ จนได้แสดงใน LIVE HOUSE ประจำในโตเกียว (ตอนนั้น SABER TIGER มีชื่อเสียงมากกว่า X อีก) แต่ก็ยังมีการเปลี่ยนสมาชิกในวงหลายครั้งหลายหน จนกระทั่ง HIDE ประกาศว่าถ้ามีใครสักคนลาออกไปอีกก็จะยุบวงทันที เพราะ HIDE เชื่อมั่นว่าสมาชิกชุดนี้จะไปได้สวย และเขาเองก็เหน็ดเหนื่อยกับการเปลี่ยนตัวสมาชิก และในที่สุดก็มีสมาชิกคนหนึ่ง (TETSU) ลาออกไป HIDE จึงตัดสินใจยุบวง SABER TIGER ที่ตั้งมานานถึง 6 ปี หลังจากจบ ม.ปลาย HIDE สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ เขาตัดสินใจจะไปเรียนเสริมสวยเพราะที่บ้านมีกิจการอยู่แล้ว และจะทิ้งดนตรีอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครจะมาชวนก็ปฏิเสธตลอด ไม่ว่าเพื่อนๆ จะห้ามยังไงเขาก็ไม่เปลี่ยนใจ คืนก่อนที่ HIDE จะไปตัดผม ขณะนั้นเอง YOSHIKI ก็โทรมาหา HIDE พูดว่า "พรุ่งนี้ฉันจะไปตัดผมแล้ว" YOSHIKI พูดเพียงประโยคเดียวว่า "ลองมาทำกับฉันอีกครั้งเถอะ" HIDE ก็ตอบรับอย่างง่ายดาย และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่มาเป็นสมาชิกของวง X อย่างเป็นทางการเมื่อปี 1987 นอกจากงานของ X และงาน SOLO เดี่ยวของเขาแล้ว HIDE ยังทำงานการกุศลต่างๆ มากมาย เช่น การบริจาคเลือด การบริจาคไขสันหลังให้แก่ผู้ป่วยโรค GM1 Ganglios Dose Type 3 (อาการของโรคคือ เส้นประสาทล่วงล้ำไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย มีผลให้กล้ามเนื้อเสื่อมสภาพลงและยังไม่สามารถรักษาได้ พบผู้ป่วยทั่วโลก 23 ราย) และยังทำเข็มกลัดที่มีข้อความว่า "THANK YOU" เพื่อให้เป็นที่ระลึกผู้ที่เขียนบริจาคไขกระดูกโดยฝีมือการออกแบบของเขาเอง HIDE ได้รู้จักผู้ป่วยโรคนี้รายหนึ่ง เธอชื่อ MAYUKO (17 ปี) เมื่อปี 1996 ที่จังหวัด WAKAYAMA หลังจากนั้น HIDE ก็เป็นพ่ออุปถัมภ์ของเธอ เขาคอยเป็นกำลังใจให้เธอต่อสู้กับโรคร้ายนี้ มีนาคม 1996 อาการของเด็กคนนี้ทรุดหนักจนต้องผ่าตัดที่โรงพยาบาล เมื่อ HIDE ได้ข่าวก็รีบไป เขาตะโกนผ่านกระจกห้องปลอดเชื้อว่า"ALBUM ต่อไปจะใส่ชื่อ MAYUKO ลงไปด้วยนะ เธอต้องรอดตายให้ได้นะ" เขาพูดคำๆ นี้อยู่เกือบ 2 ชม. จนกระทั่งฤดูร้อนของปีนั้น MAYUKO ได้ออกจากโรงพยาบาล และใน ALBUM : PSYENCE ก็ได้ใส่ชื่อของเธอไว้ใน SPECIAL CREDIT ด้วย เช้าของวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 1998 เวลา 7.30 น. แฟนของเขาเข้ามาพบ HIDE ในสภาพหมดสติ แต่ยังคงมีลมหายใจที่แผ่วเบาอยู่ ซึ่งคอของเขาแขวนอยู่กับผ้าเช็ดตัวซึ่งถูกฉีกออกเป็น 2 ส่วนตามยาว ผูกปลายผ้าเข้าด้วยกันแขวนอยู่กับลูกบิดประตูห้องนอนของเขาที่แมนชั่น (ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 เขต MINATO ,TOKYO) เธอรีบโทรแจ้ง 119 ทันที HIDE หมดลมหายใจ เมื่อเวลา 8.52 น. ขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล จากการชันสูตรศพพบว่ามีแอลกอฮอร์ปริมาณมากพอสมควรในเลือด ซึ่งคนเมาขนาดนั้นไม่น่าจะมีสติในการทำสิ่งใดๆ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่น่าจะใช่การฆ่าตัวตาย อีกทั้งยังไม่มีเหตุจูงใจใดๆ เพราะงานต่างๆ ของเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยดี นักจิตวิทยา "สันนิษฐาน" ว่าเกิดจากโรคเอเลเพนอล หรือ โรคนอนละเมอ นักจิตวิทยากล่าวว่า เมื่อเขาตกอยู่ในอาการง่วงหรือเบลอ เนื่องจากความมึนเมา ครึ่งหลับครึ่งตื่น อาจทำพฤติกรรมที่ผิดไปตามธรรมดาโดยไม่รู้ตัว เรียกว่าอาการ โรคนอนละเมอ เนื่องจากฝันร้าย พิธีศพจัดขึ้นวันที่ 7 พฤษภาคม ที่วัด CHIKUCHIHONGANGI ศพและกีตาร์ทั้งหมดของเขาตั้งไว้ในโบสถ์ ครอบครัว ญาติ เพื่อนๆ รุ่นน้องที่นับถือ HIDE ในวงการ MAYUKO และแฟนเพลงจำนวนกว่า 12,000 คน มารวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยให้แก่ HIDE หลังจากที่เขาเสียชีวิต พระได้ตั้งชื่อให้เขาว่า "SHUTOKU INSHAKU JION" ตามประเพณีของญี่ปุ่น หลังจากประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว สถานที่ฝังศพก็คือที่บ้านเกิดของเขาเอง ส่วนอัฐิได้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ญี่ปุ่น และอีกส่วนหนึ่งนำไปลอยที่ทะเลสาบ SATAMONIKA, LA. ตามความต้องการของเขา แม้ตอนนี้เขาได้จากเราไปแล้ว หากแต่ชื่อและความดีของเขายังคงอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน...

http://www.hide-city.com/

ประวัติ Toshi

NAME : TOSHIMISU DEYAMA
BIRTHDAY : OCTOBER 10, 1965
BIRTHPLACE : TATEYAMA , CHIBA
BLOODTYPE : A
STAR : LIBRA

ความทรงจำในวัยเด็กของเขาจะเน้นว่า เป็นคนธรรมดาสามัญมาก ครอบครัวมีฐานะปานกลาง อาศัยในชนบทที่สบายๆ ทั้งครอบครัวจะชอบเบสบอล จะไปเชียร์ทีมไจแอนด์เป็นประจำ คะแนนวิชาดนตรีของเขาจะดีมาก แต่วิชาอื่นก็เกือบตก ที่เขาเป็นร้องนำได้ก็เพราะว่าเขาอยู่กับดนตรีมาตั้งแต่เด็ก คุณแม่เป็นคนสอนเปียโน คุณพ่อเคยชนะการประกวดคาราโอเกะ เขาก็มีความสามารถทางด้านดนตรีมาตั้งแต่เด็ก แค่ฟัง melody ครั้งเดียวก็สามารถดีดกีต้าร์ได้แล้ว อีกอย่างคือความที่เขาอยากเด่น เขามักจะเป็นหัวหน้าชั้นเสมอ Toshi ได้พบกับ Yoshiki ตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาล หลังจากนั้นเขาก็เรียนด้วยกันมาตลอด บ้านของเขาห่างกันแค่ 10 นาทีถ้าขี่จักรยาน Yoshiki นั้นเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ชอบเพลง Rock ด้วยทำให้ถูกคอกับ Toshi ที่ชอบเหมือนกัน เพราะใน ร.ร นอกจาก 2 คนนี้แล้ว ไม่มีใครสนใจคุยเรื่องเพลง Rock เลย จึงทำให้พวกเขาเริ่มตั้งวงตั้งแต่ ป.5 แต่ได้เริ่มตั้งวงกันจริงๆก็ตอน ม.1 ตอนนั้น Toshi เล่นกีต้าร์ แต่พอ ม.3 ร.ร. ม.ต้นแยกเป็น 2 ร.ร. เมื่อนักร้องนำย้ายไปอยู่อีกร.ร. Toshi จึงได้เป็นร้องนำแทน เพราะเขาชอบร้องเพลงต่อหน้าผู้คน เลยเลิกเล่นกีต้าร์ที่ฝึกเท่าไหร่ก็ไม่เก่งสักที แต่ว่า Toshi ตอน ม.ต้นไม่ได้ทำแค่วงดนตรีอย่างเดียว เขาอยู่ซ้อมที่เข้มงวด ความอดทน การออกเสียงดัง ๆ และความสามารถด้านกีฬา เมื่อเป็นร้องนำวง X ลักษณะพิเศษต่าง ๆ ที่แสดงออกมาก็ได้มาจากตอนอยู่ชมรมวอลเล่ย์บอลนั่นเอง แม้จะอยู่ชมรมวอลเล่ย์บอล แต่ก็เล่นคอนเสริต์เป็นประจำ วางแผนงานกันเอง แม้ต้องขนเครื่องดนตรีเองก็ทำ ตอนนั้นใช้ชื่อว่า Noise แต่พอเรียน ม.5 ก็เปลี่ยนมาเป็น X ในงาน ร.ร.ตอน ม.6มีคนมาดูเขาเล่นนับพันๆคน แม้จะอยู่ ม.ปลาย แต่พวกเขาก็ก้าวไปถึงจุดสูงสุดในทาเทยาม่า เขาเริ่มต้นเข้าประกวดเพื่อทดสอบฝีมือของเขาเอง และส่วนใหญ่ก็ได้รับรางวัล best vocalist จึงมีความมั่นใจเลยตัดสินใจไปโตเกียว พวกเขาต้องพบกับนักดนตรีที่มีฝีมือเก่ง ๆ ทุกคน หลังจากเดินทางเข้าโตเกียว 1 ปี พวกเขาก็ได้แสดงสดใน Live Houseชื่อ ลา มา ม่า การแสดงสดครั้งนี้นับเป็นเกียรติประวัติของพวกเขาเลยทีเดียว ในช่วงกลางวันเป็นการคัดเลือกสมาชิก กลางคืนเป็นการแสดงสด พวกเขาจำหน่ายตั๋วเข้าชมราคา 500 เยน มีคนดูแค่ 20 เท่านั้น แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่า X จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน 14 กุมภาพันธ์1997 Toshi จดทะเบียนสมรสกับ Kaori ที่รู้จักกันครั้งแรกในปี 1993 ในการแสดงละครเวที Rock Opera Hamlit ใช้เวลาดูใจกันมา 3 ปี 20 เมษายน 1997 Toshi ขอลาออกจากวง สาเหตุคือ ความแตกต่างของแนวความคิดทางด้านดนตรี ในปี 31 ธันวาคม เขาก็กลับมาเล่น Concert The Last Live ที่ Tokyo Dome ให้กับ X เป็นครั้งสุดท้าย ปลายปี 1998 เขาและภรรยาได้เข้าร่วมลัทธิ Rumeria ของ Masaya ตั้งแต่นั้นมานิสัยเขาก็เปลี่ยนไป หงุดหงิดง่าย เปลี่ยนการแต่งตัวถือมังสวิรัต ไม่กินพืชที่เติบโตมาจากปุ๋ยเคมี ใช้เงินเปลือง ใช้คำพูดสรรพนามแปลกๆ ปฏิเสธแฟนเพลง เขาบอกว่า Toshi ในอดีตนั้นตายไปแล้ว ครอบครัวและแฟน ๆ ของเขาได้แต่ภาวนาว่า Toshi คนเดิมจะกลับมาอีกครั้ง

http://www.toshi-official.com/


ประวัติ Yoshiki

NAME : YOSHIKI HAYASHI
BIRTHDAY : 20 NOVEMBER 1965
BIRTHPLACE : TATEYAMA, CHIBA
BLOODTYPE : AB
STAR : SCORPION

โยชิกินั้น มีท่าทางยิ้มแย้มและสุขุมมากเหมือนเด็กหนุ่มที่น่ารัก ในเวลาพักผ่อนเขาเป็นคนร่าเริง พูดเก่งและเป็นมิตรมาก ตอนอายุ 5 ขวบ เขาก็ได้รับของขวัญเป็นเปียโน ตัวเขาเองจึงเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่ 5 ขวบ เพราะพ่อแม่อยากให้เขาเป็นนักเปียโน โยชิกิ กับ โทชิ รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก เรียนโรงเรียนเดียวกัน ตั้งแต่อนุบาล จนถึง ม. ปลาย ชีวิตในวัยเด็กนั้นเขาได้รับอุบัติเหตุและเหตุการณ์มากมาย เช่น ในสมัยประถม เขาจะมีความทรงจำกับการไปโรงพยาบาลมากกว่าโรงเรียน เพราะป่วยเป็นโรคหอบหืด (ปัจจุบันหายแล้ว) ในวันเกิดครบ 10 ขวบ เขาได้รับกลองเป็นของขวัญวันเกิดจากแม่ ซึ่งปกติเขาจะได้รับเครื่องดนตรีเป็นของขวัญวันเกิดทุกปีจนถือเป็นธรรมเนียม ที่ได้กลองเป็นของขวัญเพราะ พ่อของเขาอยากให้ตีกลองเป็นมือกลองที่ดีให้ได้ และการเรียนเปียโนเป็นสิ่งที่เขาเล่นติดต่อกันนานที่สุด แม้ระหว่างนั้นเลิกเล่นไปหลายครั้ง แต่พอเวลาผ่านไประยะหนึ่งเขาก็เริ่มหันมาดีดเปียโนใหม่ ช่วงนี้เองเขาเริ่มรู้จักกับดนตรีแนวร็อก และเขาก็ได้รู้จักกับวง KISS จากโปสเตอร์หน้าร้านขายเทป และพอรู้ว่า KISS จะมาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น จึงขอให้แม่พาไปดูและเป็นการดูการแสดงสดครั้งแรกของเขา และจากการที่เขาได้ดูการแสดงสดครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับอิทธิพลจากบนเวทีของ KISS และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาตั้งวงดนตรีขึ้น และเพื่อนที่จะคุยเรื่องนี้ได้ก็มีแต่ โทชิ เท่านั้น ตอนที่เขาได้รับกลองเป็นของขวัญทำให้เขาอยากเป็นมือกลอง แม้ตอนนั้นจะเล่นเป็นแต่เปียโน แต่เขาก็มีความคิดที่จะนำไปใช้กับดนตรีแนวร็อก และคิดจะตั้งวงอย่างจริงจัง เขาเป็นนักร้องนำโดยตีกลองไปด้วย แต่เสียงของเขาเปลี่ยนช้า ทำให้เวลาร้องเพลงก็จะถูกเพื่อนล้อ ทำให้เขาเลิกร้องเพลงไปเลยเมื่อเข้าเรียน ม.ต้น ร่างกายของเขาเริ่มแข็งแรงขึ้น และเข้าร่วมชมรมดนตรี เป็นชมรมที่มีชื่อเสียงมาก ชนะการประกวดได้อัดแผ่นเสียง ต่อมาเขาเริ่มรู้สึกว่าการเล่นเครื่องดนตรีเบาๆ เริ่มไม่เต็มอารมณ์ จึงหันมาเล่นกีฬา เขาเลือกเล่นฟุตบอล สาเหตุหนึ่งเพราะเขาอยากปลดปล่อยพลังงาน แต่เล่นได้ไม่นานก็เลิกไป และเขามีความคิดที่จะตั้งวงดนตรีขึ้น โดย โยชิกิ เล่นกลอง โทชิ ยังไม่ได้เป็นนักร้องนำ แต่มีหน้าที่เล่นกีตาร์ โยชิกิเขาเริ่มตั้งวงอย่างจริงจัง ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า "NOISE" โยชิกิ และ โทชิ เริ่มแสดงในสถานที่ต่างๆ มากขึ้นและเริ่มแสดงคอนเสิร์ตของตัวเอง นอกจากนั้นยังเข้าประกวดในงานต่างๆ ด้วยชีวิตในวัยเรียนของเขาจะเล่นดนตรีเป็นส่วนใหญ่แต่เขาก็ยังเกเรเหมือนเดิม ต่อมาเมื่อเขาพบกับปัญหาการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย นอกจาก โยชิกิ และ โทชิ แล้ว สมาชิกคนอื่นๆ ขอถอนตัวหมด เขาหาจึงสมาชิกใหม่และเปลี่ยนชื่อวงใหม่ว่า X ก็เริ่มทำเพลงของตัวเองด้วย เพลง I'LL KILL YOU ที่พวกเรารู้จักกันก็เป็นเพลงที่แต่ในตอนนี้ด้วย แม้สมาชิกจะลาออกไปแต่ โยชิกิ และ โทชิ ก็เห็นว่าควรทำวงต่อ ความหวังของเขาคือเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดนตรี เพราะเขาอยากเป็นนักเปียโน ก็คิดว่าถ้าไม่จริงจังคงไม่เรียนต่อในมหาวิทยาลัยแน่นอน การที่เขาล้มเลิกการเข้าเรียนต่อ เขาก็นัดแนะกับ โทชิ ว่า ไปโตเกียวหลังจากที่เรียนจบ ม.6 เพื่อที่จะทำให้วง X เจริญเติบโตขึ้น เขากับ โทชิ เริ่มทำงานพิเศษพร้อมกับหาสมาชิกไปด้วย ทั้ง 2 เช่อพาร์ตเมนท์อยู่ด้วยกัน ทำงานพิเศษทุกอย่าง ระหว่างทำงาน ก็ทำเพลงไปเสนอค่ายเทปด้วยเนื่องจากวง X ที่ต้องเปลี่ยนสมาชิกบ่อยๆ ทำให้ โยชิกิท้อแท้และพูดว่า "เลิกซะดีมั้ย" สมาชิกของ X ตอนนั้นมีแค่ โยชิกิ และ โทชิ เท่านั้น การซ้อมที่มีมือกลองและนักร้องนำนั้นทำไม่ได้ โทชิ บอกว่าตอนนั้นรู้สึกว่าควรทำอะไรให้มันติดต่อกัน หลังจากนั้นเมื่อ โยชิกิ สามารถทำให้ ทาอิจิ ยอมเข้าวงได้ ก็เริ่มการแสดงสดอย่างจริงจัง แถมยังมีการอาละวาดบนเวที ล่างเวทีก็ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ในงานดื่มฉลองหลังเสร็จงาน ทั้งผู้เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง นักดนตรีและแฟนเพลงแน่นไปหมด จึงทะเลาะกันใหญ่เป็นประจำทุกวัน โยชิกิ ชอบทำแก้วในร้านแตกหมดและชอบเหวี่ยงขวดเบียร์หลาย 10 ขวด จนเป็นข่าวลืออยู่เป็นประจำ เลยทำให้ร้านเหล้าห้ามไม่ให้เขาเข้ามากขึ้นหลังจากโยชิกิสามารถรวบรวมสมาชิกของ X ได้ลงตัวที่สุดก็เริ่มทำวงดนตรีอย่างจริงจังมากขึ้นจนได้เดบิวท์ และประสบความสำเร็จมากมาย และได้เปลี่ยนชื่อวงเป็น X Japan และในปี พ.ศ. 2540 โทชิได้ตัดสินใจออกจากวง โยชิกิและสมาชิกที่เหลือจังได้ตัดสินใจประกาศยุบวง ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2540

http://www.myspace.com/yoshiki


การกลับมารวมวงใหม่


ต้นปี พ.ศ. 2550 โทชิ นักร้องนำ ได้ออกมายืนยันการกลับมารวมตัวกันใหม่ของ X Japan ผ่านทางหน้าเว็บของเขาและบนนิตยสารเล่มหนึ่ง ส่วนการยืนยันจาก โยชิกิ หัวหน้าวงนั้น ยังไม่มีความแน่นอน เพราะทางโยชิกิยังคงเสียใจกับการตายของฮิเดะ และการแยกวงเมื่อสิบปีก่อน เขาเขียนในมายสเปซของเขาไว้เพียงว่า "ขอเวลาสักพัก" ในวันที่ 4 มิถุนา พ.ศ. 2550 โยชิกิได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า กำลังทำโปนเจตท์เพลง "Without You" ซึ่งร้องให้ฮิเดะ ร่วมกับโทชิ และกำลังทาบทาม พาตะ และ ฮีธ เพื่อกลับมารวมตัวเป็น X Japan อีกครั้งนึง ซึ่งทางวงจะหานักกีตาร์ชื่อดังมาพลัดเปลี่ยนเล่นแทนตำแหน่งของฮิเดะในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2550 X Japan ได้กลับมารวมตัวกันแสดงสดที่ Aqua City เมืองโอไดบะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ เพลง I.V. เพลงประกอบของภาพยนตร์ Saw IV ที่กำลังจะออกฉายในประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2551 X Japan ได้ออกแถลงข่าวเรื่องคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน ในชื่อคอนเสิร์ตว่า X JAPAN ATTACKS AGAIN 2008 คอนเสิร์ตมีทั้งหมด3วันด้วยกัน จัดขึ้นในวันที่ 28-30 มีนาคม พ.ศ. 2551 ที่ TOKYO DOMEโดยวันแรก (28 มีนาคม พ.ศ. 2551) มีชื่อว่า Hametsu ni Mukatte - Hakai no Yoruวันที่สอง (29 มีนาคม พ.ศ. 2551) มีชื่อว่า Hametsu ni Mukatte - Mubou no Yoruวันที่สาม (30 มีนาคม พ.ศ. 2551) มีชื่อว่า Hametsu ni Mukatte - Souzou no Yoruหลังจากคอนเสิร์ตการกลับมาอีกครั้งของ X JAPAN ในปี 2551ได้มีการเปิด Offical website ของ X JAPAN นอกจากประเทศญี่ปุ่นใน 6 ประเทศแรกทั่วโลก พร้อมกันในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551ได้แก่ ประเทศฝรั่งเศส, อังกฤษ, ไต้หวัน, ฮ่องกง, ไทย และ เกาหลีซึ่งโยชิกิ(หัวหน้าวง,มือกลอง และเปียโน) ได้เดินทางไปจัดงานแถลงข่าวโปรโมตเว็บไซต์ในแต่ละประเทศโดยเริ่มจากเอเชียตามลำดับดังนี้วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551 - ที่ญี่ปุ่นวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551 - ที่ไต้หวันวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551 - ที่ฮ่องกงวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551 - ที่ไทยวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551 - ที่เกาหลีในงานแถลงข่าวแต่ละประเทศโยชิกิได้มีเซอร์ไพรซ์แฟนๆ ด้วยการแจ้งข่าวเรื่องทัวร์คอนเสิร์ต X JAPAN ด้วยตัวเองโดยมีกำหนดการทัวร์ ดังนี้- ญี่ปุ่น Countdown Live Concert สิ้นปี 2551- ฮ่องกง วันที่ 17 มกราคม 2552- กรุงเทพฯ (ไทย) เลื่อนไม่มีกำหนด- ไทเป (ไต้หวัน) วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552- โซล (เกาหลีใต้) วันที่ 21 มีนาคม 2552และในวันที่02/05/09 ได้เล่นเพลงใหม่ชื่อว่า"Jade"ในการแสดงที่โตเกียวโดมและยัง ได้รับ สึกิโซะ มือกีต้าร์ ของวง Luna Sea เข้าเป็น สมาชิกคนที่ 6 อีกด้วย



ประวัติ X JAPAN


วงได้เริ่มดำเนินตามแผนในปี พ.ศ. 2519 สมาชิกที่ร่วมก่อตั้งมี โทชิ (โทชิมิทสึ เดยาม่า) และ โยชิกิ ซึ่งพวกเขาอายุได้แค่ 12 ปีเท่านั้น ต่อมาปี พ.ศ. 2522 ได้ก่อตั้งวงชื่อว่า Noise ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น X ในปี พ.ศ. 2525ต่อมาได้ออกซิงเกิ้ลแผ่นแรกของวงชื่อ "I'll kill you" (มิถุนายน พ.ศ. 2528) สมาชิกในยุคนั้นมี: โยชิกิ (กลอง, เปียโน) , โทชิ (ร้องนำ) , ยูจิ (กีตาร์) , โทโมะ (กีตาร์) , โทคุโอะ (เบส) ภายใต้สังกัดของตัวเองโดยขายได้ 10,000 แผ่นเมษายนปี พ.ศ. 2529 ได้ออกซิงเกิ้ลที่ชื่อ オルガスム (Orgasm) สมาชิกในยุคที่ 7 นี้มี: โยชิกิ (กลอง, เปียโน) , โทชิ (ร้องนำ) , จุน (กีตาร์) , ฮิคารุ (เบส) ช่วงนี้ ทาอิจิ ได้เข้ามาร่วมวงแล้วแต่ได้ขอออกจากวงชั่วคราวพ.ศ. 2530 ได้สมาชิกที่ลงตัวอันประกอบไปด้วย โยชิกิ (กลอง, เปียโน) , โทชิ (ร้องนำ) , ฮิเดะ (กีตาร์) , พาตะ (กีตาร์) , ทาอิจิ (เบส) และหลังจากนั้นได้ออกวางจำหน่ายอัลบั้มอินดีย์อัลบั้มแรกชื่อ "Vanishing Vision" (14 เมษายน พ.ศ. 2531) ภายใต้สังกัดของตัวเอง (Extasy Record) โดยมียอดขายสูงสุดติดอันดับ 1 ในชาร์ทอินดีย์สิงหาคม พ.ศ. 2531 ได้เซ็นสัญญากับค่ายใหม่ Sony Record เพื่อเตรียมการเมเจอร์ เดบิวท์ 21 เมษายน พ.ศ. 2532 ได้ออกวางจำหน่าย อัลบั้ม เมเจอร์ เดบิวท์ ชื่ออัลบั้มว่า BLUE BLOODพ.ศ. 2535 X เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่น และพวกเขาเริ่มมีความคิดเข้าสู่ตลาดโลก ซึ่งขณะนั้นในสหรัฐอเมริกานั้นได้มีวงที่ชื่อ X อยู่แล้ว พวกเขาจังตัดสินใจเปลี่ยนชื่อวงจาก X เป็น X Japan และช่วงนี้เองเป็นช่วงที่พวกเขาขาดมือเบส เนื่องจาก ทาอิจิ มือเบสคนเก่า ได้ออกจากวงไปแล้ว ในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2535 และก็ได้ ฮีธ (ฮิโรชิ โมริเอะ) เข้ามาเป็นมือเบสคนใหม่ ส่วนทาอิจินั้น หลังจากออกจากวง X ก็ได้ออกไปอยู่กับวง Loudness ซึ่งเป็นวงอาจารย์ของเขาเอง4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 อัลบั้ม DAHLIA ออกวางจำหน่าย อัลบั้มนี้ออกวางจำหน่ายทั่วโลก ภายใต้สังกัด East West Japan22 กันยายน พ.ศ. 2540 X Japan ประกาศยุบวงที่ตั้งมายาวนานถึง 15 ปี โดยประกาศการยุบวงที่โรงแรมมิยาโกะ ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีสมาชิกที่มา 4 คน คือ โยชิกิ, ฮิเดะ, พาตะ และ ฮีธ ส่วน โทชิ นั้นได้ลาออกจากวงไปตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2540 โดยให้เหตุผลว่า มีความแตกต่างทางด้านแนวความคิดทางด้านดนตรี X Japan ไม่สามารถเปลี่ยนนักร้องนำใหม่ได้เพราะส่วนใหญ่เพลงของ X Japan แต่งโดยใช้พื้นฐานเสียงของโทชิเป็นหลัก จากการพิจารณาของสมาชิกทุกคนที่เหลือในวงหลายครั้งจึงตัดสินใจประกาศยุบวง

http://www.xjapan.in.th/