ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ประวัติ Hide

NAME : HIDETO MUTSUMOTO
BIRTHDAY : 13 DECEMBER 1964 - 2 MAY 1998 (33)
BIRTHPLACE : YOKOSUKA, KANAGAWA
BLOODTYPE : AB
STAR : SAGITTARIUS

ที่เป็นเด็กประถม เจ้าตัวบอกว่าเขาอ้วนมาก เหมือนลูกโป่งเลย (คงประมาณ 80 กก.) แต่ตอนอนุบาลไม่อ้วน มาเริ่มอ้วนสมัยประถม มันเป็นเหมือนปมด้อยในชีวิตเขาเลย แต่ความอ้วนก็มีข้อดีเหมือนกัน HIDE บอกว่าทุกคนจะจำเขาได้อย่างรวดเร็ว ตอนที่ย้ายห้องใหม่ๆ ที่ครูจำได้เพราะอ้วนที่สุด หรือไม่ก็ที่ 2 ของห้อง ตอนพักกลางวันที่สนามของรร.มีแต่คนอ้วนทั้งนั้นเลย แล้วครูก็บอกว่าความอ้วนจะเกิดปัญหากับหัวใจ แล้วครูก็บังคับให้เขาออกกำลังกาย ทุกคนในรร.ก็มองลงมาที่สนามที่มีคนอ้วนที่ถูกบังคับให้วิ่ง มันเจ็บปวดมากเลยสำหรับเขา แต่ครูที่เป็น TRAINER บอกว่า "จะทำให้พวกเธอผอมให้ภายในไม่กี่เดือน" ครูของเขาก็เป็นคนอ้วนเหมือนกันเลยไม่ยอมวิ่งกันและมันก็ไม่ได้ผลด้วย ตอนม.3 เขาสูง 150 ซม. แต่หนัก 70 กก. นับว่าอ้วนที่สุดแล้ว แต่พอขึ้นม.ปลาย การกินของเขาก็เปลี่ยนไป เวลาขอเงินแม่บอกว่าจะไปซื้อขนมปังกิน แต่จริงๆ เอาเงินเก็บไว้ซื้อของอื่นๆ เช่น พวกเสื้อผ้า SATIN เลยไม่กินข้าวกลางวัน กลับถึงบ้านก็ไม่กินแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปเที่ยวต่อทันที พอทำอย่างนี้ก็ผอมลงเรื่อยๆ เลยคิดว่า "ทำแบบนี้ดีนี่" เลยไม่กินซะเลย วันนึงกินแค่มื้อเดียวหรือไม่กินเลย ผอมลงมาก 2 เดือน นน.ลดตั้ง 20 กก.อย่างสบายๆ ผอมลงจนเหมือนคนละคน ทางบ้านจะสนับสนุนให้ HIDE เรียนพิเศษมากมายเยอะไปหมด ไม่ว่าจะภาษาอังกฤษ ลูกคิด เคนโด คาราเต้ คัดอักษร เปียโน อันนี้เป็นสิ่งเดียวที่ไม่อยากเรียน พูดไปก็ร้องไห้ไป แม้ว่าเขาจะได้รับความสนับสนุนทางด้านการเรียนเป็นอย่างดี แต่เขาก็ไม่ค่อยใส่ใจกับการเรียนเท่าไหร่นัก แม้จะไปรร.ทุกวันเหมือนเด็กขยัน เขาชอบขี่จักรยานมากกว่าที่จะไปนั่งสนใจเกี่ยวกับการเรียน เขาเรียนตั้งแต่ประถมจนถึงม.ต้น คำพูดที่แม่จะพูดเวลาที่เขากลับบ้านคือ "วันนี้ไปเรียนนู่น วันนี้ไปเรียนนี่" ตารางเวลาถูกจัดไว้อย่างดีโดยพอแม่ของเขา แต่เมื่อเขามาคิดๆ ดูแล้ว สิ่งที่เขาเรียนมาทั้งหมดในตอนนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยในปัจจุบัน ถ้าเรียนเปียโนยังจะมีประโยชน์เสียกว่า แต่เขาเกลียดสิ่งนั้นจริงๆ สมัยป.4 พ่อแม่ส่งให้เขาไปเข้าร่วมทัวร์สำหรับเด็กที่พาไป CANNADA และ LA. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง เขาถูกส่งไป SHIKOKU เพียงลำพัง พ่อแม่ของเขาคิดว่าอนาคตอยากให้เขาเป็นคนที่มีความเป็น INTER แต่พอถามถึงความทรงจำในสมัยนั้น สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือการได้ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะไม่มีเรื่องน่าอายเกิดขึ้นนั่นเอง ตอนแรกเขาไม่มีความสนใจในดนตรี ROCK เท่าไหร่นัก เหตุผลหนึ่งก็คือ เด็กคนที่เขาไม่ชอบหน้าเอามากๆ คนนั้นคลั่งไคล้ในการฟัง AERO SMITH มาก เวลาที่ HIDE ไม่ชอบใคร เมื่อคนๆ นั้นทำอะไรก็พลอยทำให้ไม่ชอบไปหมด ดังนั้น ดนตรี ROCK ในช่วงนั้นก็ขวางหูขวางตาไปด้วย แต่เหตุผลที่เขาเริ่มมาสนใจไม่ใช่เพราะเขาเลิกเกียดเด็กคนนั้น แต่เป็นเพราะช่วงม.2 เขาได้ฟังเพลงของ KISS ALBUM : ALIVE เขาชอบมากและเริ่มสนใจดนตรี ROCK อย่างจริงจังและขยายไปจนถึง PUNK เขาหานิตยสารเกี่ยวกับ KISS มาอ่าน อีกทั้งยังสมัครเข้าเป็น FANCLUB อีกด้วย เขาจะยืนคอยจม.ตอบรับทุกวันที่ตู้จม.หน้าบ้าน นอกจาก KISS แล้วเขาก็ชอบ LED ZEPPLINE, QUEEN โดยเฉพาะวง JAPAN ที่ปลื้มเป็นพิเศษ เพราะวงนี้จะแต่งหน้าเหมือนผู้หญิงและมีทรงผมแปลกๆ ทำให้วงนี้น่าสนใจสำหรับ HIDE มาก อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะสมัยก่อนไม่มีวงแบบนี้ให้เห็นบ่อยนักเมื่อได้เห้นต่างก็แปลกใจ รวมทั้ง HIDE ด้วย เขาเริ่มสนใจเล่นกีตาร์ ตอนแรกจะเล่นไม้เทนนิสแทนกีตาร์ โพสท่าหน้ากระจก แถมยังบอกว่า "มันใช้ได้เหมือนกัน" เขาดีดไม้ เทนนิสมาเกือบปี พอขึ้นม.3 ยายก็ซื้อกีตาร์จริงๆ ให้สมใจอยาก เป็นของ GIBSON รุ่น LESPAULเป็นรุ่นที่ดีมากสำหรับนักเล่นกีตาร์มือใหม่ สำหรับเด็กม.3 กีตาร์รุ่นนั้นนับว่าหรูอย่าบอกใครเชียว เพื่อนๆ ในห้องพากันอิจฉาและจะเรียกเขาว่า "นาย GIBSON" เขาภูมิใจกับชื่อนี้มาก สมัยม.ปลาย ครั้งหนึ่ง ตอนสอบสัมภาษณ์เพื่อขอโควต้าเข้าเรียนต่อ คนสัมภาษณ์ถามว่า ทำไมถึงเลือกมาสอบที่นี่ เขาก็ตอบว่า "ไม่มีที่ไปนอกจากที่นี่เพราะเป็นที่เดียวที่สอบได้" จึงทำให้เขาไม่ได้รับคัดเลือก เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องเรียนเท่าไหร่นัก ขนาดไม่รู่ว่า รร.ที่ไปสอบเข้าเป็น รร.ชายล้วน เขาเบื่อ รร.มาก เขาไปเรียนเพื่อให้ครบตามที่รร.กำหมดไว้เท่านั้นเพื่อจะได้เลื่อนชั้น HIDE เกลียดวิชาพละเลยโดดวิชานี้เป็นประจำ ที่รร.เคร่งครัดเรื่องผมมาก ห้ามทัดหู ห้ามย้อมผม ดัดผมก็ไม่ได้ HIDE ไว้ยาวแค่ 3 ส่วนแล้วใช้กิ๊บติดด้านหลัง เขาบอกว่ามันลำบากมากเลย ตอนย้อมผมก็ใช้สเปรย์ฉีดทับ ตอนปิดเทอมหน้าร้อน เขาก็ให้ยายย้อมผมให้เพราะยายเป็นช่างเสริมสวย แต่พอบอกพ่อแม่ว่าอยากย้อมผมก็ถูกพ่อแม่ดุเอา แต่ยายจะพูดว่า "ก็ลองทำดูสิ" เพราะตัวยายเองก็ย้อมสีม่วงบ้าง เขียวบ้าง ยายเป็นคนเปรี้ยวมาก (ใน ALBUM: BLUE BLOOD ชุดส่าหรี่สีน้ำตาลของอินเดียที่ HIDE ใส่ตอนถ่ายรูป ก็เป็นชุดที่ยายใส่เดินไปเดินมา HIDE บอกว่ายายของเขาเท่ห์มากเลย) นอกจากเรื่องผมแล้วที่ รร.ยังห้ามเล่นดนตรี ROCK อย่างเด็ดขาด ในหนังสือคู่มือนักเรียนก็เขียนไว้ว่า กีตาร์ไฟฟ้าเป็นสิ่งต้องห้าม เขาผิดหวังมาก เพราะเขาตั้งใจว่าเมื่อเข้าม.ปลายจะตั้งวง แม้ว่ารร.จะห้ามเล่นดนตรี แต่เขาก็ตั้งวงของตัวเองได้ เพราะที่ YOKOSUGA มี PUB และ LIVE HOUSE สำหรับทหารอเมริกันมากมาย เพราะฉะนั้นการตั้งวงดนตรีก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขณะนั้นเขาก็ตั้งวงชื่อSABER TIGER นโยบายของวงคือ ทำอะไรก็ได้ให้เลิศหรูและเวอร์ที่สุด HIDE กับเพื่อนๆ ก็ทำผมเหมือนวง JAPAN HIDE เองก็ใส่โซ่อันที่ไปขโมยมาจากมอเตอร์ไซด์ที่ลาดจอดรถอีกด้วย แรกๆ SABER TIGER จะเล่นเพลงของวงที่ดังๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฝีมือของทุกคนก็เริ่มดีขึ้นจึงเริ่มที่อยากจะเล่นเพลงของตัวเองบ้าง HIDE เองก็คิดว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้คุณภาพของวงดีขึ้น เขาจึงเริ่มเข้มงวดกับสมาชิก เขาเปลี่ยนสมาชิกหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้ได้เสียงดนตรีตามที่เขาต้องการ เขาเรียกการเปลี่ยนสมาชิกของวงว่า "แผนการตัดหัวที่น่าสะพรึงกลัว" เขาใช้สิทธิ์หัวหน้าวงอย่างเต็มที่ ด้วยชุดที่หรูหราในระยะหลัง SABER TIGER ได้รับความนิยมเรื่อยๆ จนได้แสดงใน LIVE HOUSE ประจำในโตเกียว (ตอนนั้น SABER TIGER มีชื่อเสียงมากกว่า X อีก) แต่ก็ยังมีการเปลี่ยนสมาชิกในวงหลายครั้งหลายหน จนกระทั่ง HIDE ประกาศว่าถ้ามีใครสักคนลาออกไปอีกก็จะยุบวงทันที เพราะ HIDE เชื่อมั่นว่าสมาชิกชุดนี้จะไปได้สวย และเขาเองก็เหน็ดเหนื่อยกับการเปลี่ยนตัวสมาชิก และในที่สุดก็มีสมาชิกคนหนึ่ง (TETSU) ลาออกไป HIDE จึงตัดสินใจยุบวง SABER TIGER ที่ตั้งมานานถึง 6 ปี หลังจากจบ ม.ปลาย HIDE สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ เขาตัดสินใจจะไปเรียนเสริมสวยเพราะที่บ้านมีกิจการอยู่แล้ว และจะทิ้งดนตรีอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครจะมาชวนก็ปฏิเสธตลอด ไม่ว่าเพื่อนๆ จะห้ามยังไงเขาก็ไม่เปลี่ยนใจ คืนก่อนที่ HIDE จะไปตัดผม ขณะนั้นเอง YOSHIKI ก็โทรมาหา HIDE พูดว่า "พรุ่งนี้ฉันจะไปตัดผมแล้ว" YOSHIKI พูดเพียงประโยคเดียวว่า "ลองมาทำกับฉันอีกครั้งเถอะ" HIDE ก็ตอบรับอย่างง่ายดาย และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่มาเป็นสมาชิกของวง X อย่างเป็นทางการเมื่อปี 1987 นอกจากงานของ X และงาน SOLO เดี่ยวของเขาแล้ว HIDE ยังทำงานการกุศลต่างๆ มากมาย เช่น การบริจาคเลือด การบริจาคไขสันหลังให้แก่ผู้ป่วยโรค GM1 Ganglios Dose Type 3 (อาการของโรคคือ เส้นประสาทล่วงล้ำไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย มีผลให้กล้ามเนื้อเสื่อมสภาพลงและยังไม่สามารถรักษาได้ พบผู้ป่วยทั่วโลก 23 ราย) และยังทำเข็มกลัดที่มีข้อความว่า "THANK YOU" เพื่อให้เป็นที่ระลึกผู้ที่เขียนบริจาคไขกระดูกโดยฝีมือการออกแบบของเขาเอง HIDE ได้รู้จักผู้ป่วยโรคนี้รายหนึ่ง เธอชื่อ MAYUKO (17 ปี) เมื่อปี 1996 ที่จังหวัด WAKAYAMA หลังจากนั้น HIDE ก็เป็นพ่ออุปถัมภ์ของเธอ เขาคอยเป็นกำลังใจให้เธอต่อสู้กับโรคร้ายนี้ มีนาคม 1996 อาการของเด็กคนนี้ทรุดหนักจนต้องผ่าตัดที่โรงพยาบาล เมื่อ HIDE ได้ข่าวก็รีบไป เขาตะโกนผ่านกระจกห้องปลอดเชื้อว่า"ALBUM ต่อไปจะใส่ชื่อ MAYUKO ลงไปด้วยนะ เธอต้องรอดตายให้ได้นะ" เขาพูดคำๆ นี้อยู่เกือบ 2 ชม. จนกระทั่งฤดูร้อนของปีนั้น MAYUKO ได้ออกจากโรงพยาบาล และใน ALBUM : PSYENCE ก็ได้ใส่ชื่อของเธอไว้ใน SPECIAL CREDIT ด้วย เช้าของวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 1998 เวลา 7.30 น. แฟนของเขาเข้ามาพบ HIDE ในสภาพหมดสติ แต่ยังคงมีลมหายใจที่แผ่วเบาอยู่ ซึ่งคอของเขาแขวนอยู่กับผ้าเช็ดตัวซึ่งถูกฉีกออกเป็น 2 ส่วนตามยาว ผูกปลายผ้าเข้าด้วยกันแขวนอยู่กับลูกบิดประตูห้องนอนของเขาที่แมนชั่น (ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 เขต MINATO ,TOKYO) เธอรีบโทรแจ้ง 119 ทันที HIDE หมดลมหายใจ เมื่อเวลา 8.52 น. ขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล จากการชันสูตรศพพบว่ามีแอลกอฮอร์ปริมาณมากพอสมควรในเลือด ซึ่งคนเมาขนาดนั้นไม่น่าจะมีสติในการทำสิ่งใดๆ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่น่าจะใช่การฆ่าตัวตาย อีกทั้งยังไม่มีเหตุจูงใจใดๆ เพราะงานต่างๆ ของเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยดี นักจิตวิทยา "สันนิษฐาน" ว่าเกิดจากโรคเอเลเพนอล หรือ โรคนอนละเมอ นักจิตวิทยากล่าวว่า เมื่อเขาตกอยู่ในอาการง่วงหรือเบลอ เนื่องจากความมึนเมา ครึ่งหลับครึ่งตื่น อาจทำพฤติกรรมที่ผิดไปตามธรรมดาโดยไม่รู้ตัว เรียกว่าอาการ โรคนอนละเมอ เนื่องจากฝันร้าย พิธีศพจัดขึ้นวันที่ 7 พฤษภาคม ที่วัด CHIKUCHIHONGANGI ศพและกีตาร์ทั้งหมดของเขาตั้งไว้ในโบสถ์ ครอบครัว ญาติ เพื่อนๆ รุ่นน้องที่นับถือ HIDE ในวงการ MAYUKO และแฟนเพลงจำนวนกว่า 12,000 คน มารวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยให้แก่ HIDE หลังจากที่เขาเสียชีวิต พระได้ตั้งชื่อให้เขาว่า "SHUTOKU INSHAKU JION" ตามประเพณีของญี่ปุ่น หลังจากประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว สถานที่ฝังศพก็คือที่บ้านเกิดของเขาเอง ส่วนอัฐิได้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ญี่ปุ่น และอีกส่วนหนึ่งนำไปลอยที่ทะเลสาบ SATAMONIKA, LA. ตามความต้องการของเขา แม้ตอนนี้เขาได้จากเราไปแล้ว หากแต่ชื่อและความดีของเขายังคงอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน...

http://www.hide-city.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น